เครื่องราง4ภาค


เครื่องรางของขลังหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาแต่โบราณ นอกจากจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของพุทธคุณแล้ว ก็มีที่มาที่แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่หรือภาคนั้นๆอีกด้วย

ดังนั้นวันนี้แอดมินจะขอมาแนะนําเครื่องรางที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นในแต่ละภาค ที่หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินหรือเคยรู้จัก ให้ได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เริ่มกันที่




เครื่องรางที่โดดเด่นทางภาคเหนือ



4หู5ตา

การสร้างสี่หูห้าตา (พระอินทร์จําแลง กินไฟถ่ายเป็นทอง) สร้างขึ้นจากนิทานชาวล้านนาเล่าขานกันมาว่ากาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีชายหนุ่มกําพร้าผู้หนึ่งที่ฐานะยากจน ขัดสนมาก

มีที่ดินทํากินเพียงน้อยนิดไว้สําหรับปลูกข้าว มีอยู่ปีหนึ่งเกิดความแห้งแล้งต้นข้าวที่ปลูกไว้แห้งตายไปมากพอสมควร มีพระอินทร์บนสวรรค์องค์หนึ่ง มองเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชายผู้นี้

จึงอยากช่วยเหลือให้พ้นจากความทุกข์ยาก จึงจําแลงกายมาปรากฏเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง ซึ่งมีหูสี่หูมีดวงตาห้าดวง มาทําลายต้นข้าวในนา บังเอิญชายหนุ่มได้มาเห็นจึงเกิดความโมโห

คิดจะฆ่าสัตว์ตัวนี้แต่ก็ไม่มีอาวุธใดทําร้ายได้จึงคิดหาวิธีดักจับจนกระทั่งจับได้ จึงนํามาผูกติดไว้กับต้นเสากระท่อมที่พัก พอตกเย็นชายหนุ่มก็ได้นําอาหารมาให้แต่มันไม่ยอมกินอาหาร

กลับยืนตัวสั่นดูเหมือนว่ากําลังหนาวจัด คงต้องการความอบอุ่น ชายหนุ่มจึงหาฟืนมาก่อไฟให้มัน และในขณะที่ชายหนุ่มพักผ่อน ก็เห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นกําลังจับถ่านไฟก้อนแดงๆ

ที่กําลังร้อนจัดกินเข้าไป อย่างไม่รู้สึกร้อน แต่อย่างใด จนกระทั่งชายหนุ่มนั้นเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่าสัตว์ประหลาดที่กินถ่านไฟก้อนแดงๆเข้าไปได้ถ่ายออกมาเป็นทอง

ชายหนุ่มกําพร้าจึงนําทองคําไปขายจนเกิดความรํ่ารวย จึงได้ข้อคิดว่า ถ้าเขาเกิดใจร้อนฆ่าสัตว์ประหลาดตาย เขาก็คงยากจนเหมือนเดิม คงเป็นเพราะเขามีความเมตตาที่คิดละเว้นชีวิตต่อสัตว์ประหลาดตนนั้น

ถึงแม้ในใจจะเกิดความโมโหที่สัตว์ประหลาดมาทําลายต้นข้าวในนาดังนั้นอยากให้ทุกคนหมั่นรักษาศีลให้มากๆ และมีพรหมวิหาร ๔ ถ้าคนเรายึดถือสิ่งเหล่านี้ได้ชีวิตเราจะพบแต่ความสุขตลอดกาล


แมลงภู่คํา

แมลงภู่คําเป็นเครื่องรางของทางล้านนาได้รับมาจากทางพม่า เครื่องรางนี้ตามประวัติเคยพบอยู่บนเสลี่ยงพระเจ้าบุเรงนองด้วยพญาแมลงภู่คํานี้นับเป็นเอกทางโชคลาภ เมตตา

ส่งเสริมดวงชะตาให้มั่งคั่ง ทั้งทรัพย์สิน ยศศักดิ์เป็นที่รักใคร่เอ็นดูอีกทั้งยังป้องกันคุณไสยมนต์ดํา และหากแม้นว่าผู้หนึ่งผู้ใดคิดร้ายต่อผู้บูชา พญาแมลงภู่คําจะไปทําร้ายบุคคลนั้น

ให้ได้รับความเจ็บปวดและหลาบจํา ถ้าปรารถนาสิ่งใดจงอธิษฐานและจะได้สมประสงค์ดังที่หวัง




เครื่องรางที่โดดเด่นทางภาคอีสาน




เทพจําแลงภมร

เทพจําแลงภมร ครูบากฤษณะ หลังนกสาริกาคู่ เพ้นท์สีฝังตะกรุดเงินคู่ ฝังพลอย ปั้มโค๊ดหมึกลายเซนต์ครูบากฤษณะ วัดป่าเวฬุวันเจ้าของตํานานอันสุดโด่งดังในระดับอินเตอร์


เมื่อพูดถึง "เทพจําแลงภมร" ภาพที่ผู้คนทั่วไปรู้จักกันดีคือวัตถุมงคลประเภทหนึ่งที่มีรูปของเทพสององค์ในอิริยาบถหันหน้าเข้าหากัน ซึ่ง "ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ"

สํานักสงฆ์เวฬุวัน จ.นครราชสีมา ผู้สร้างวัตถุมงคล "เทพจําแลงภมร" ได้ให้คําตอบไว้ว่า เหตุเกิดจากบางครั้งเราอาจพกพาพระเครื่องหรือรูปเคารพของพระพุทธเจ้า

ไปในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นท่านจึงได้สร้างเครื่องรางประเภทหนึ่งขึ้นมาตามศาสตร์วิชาเก่าแก่ที่ได้รํ่าเรียนมา


เทพจําแลงภมร หมายถึง เปลี่ยนไปได้เปลี่ยนมาได้แล้วแต่จะให้เป็นอะไรหรือแล้วแต่ใจปรารถนา เทพสององค์ที่ปรากฏคือ พระพักตร์พระศิวะ

มหาเทพหันหน้าเข้าหาพระพักตร์พระแม่อุมาเทวีอันเป็นสื่อความหมายถึงความสมดุลของสรรพสิ่ง สําหรับการฝังมงคลต่างๆ ลงด้านหลังของเทพ

เช่น เหรียญ หรือ พลอย ท่านกล่าวว่า นอกจากความตั้งใจให้เกิดตําหนิอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว การฝังพลอยลงไปก็เพื่อเป็นการเสริมให้วัตถุมงคลเหล่านั้นมีพลังจากดวงดาว

อันเป็นการนํามงคลเข้าสู่ตัวของผู้บูชาตามหลักของโหราศาสตร์อีกด้วย


ยกฐานะอริยทรัพย์

สุดยอดตะกรุดชั้นดีมีคุณเป็นเลิศเป็นของมงคลยิ่งมีฤทธานุภาพ พุทธคุณบันดาลทุกสิ่งอย่างที่เรียกว่าเงินทอง ข้าวของ ธนสารสมบัติที่มีเดชเรียกพาพัดโบกนําโชคชัยให้เข้ามาหาแก่ผู้ที่บูชา

หลวงพ่อมาโนชท่านได้สร้างตะกรุดยกฐานะอริยทรัพย์นี้ไว้เพื่อช่วยเหลือคน ให้หายอดอยากให้หายยากจนให้หายขัดสนข้นแค้นแสนลําเค็ญ ช่วยยกฐานะ ช่วยยกครอบครัวให้สูง

หนุนดวงให้เจริญ ใช้แก้หนี้มั่งมีทวีทรัพย์รับแต่ความเจริญรุ่งเรืองให้เข้ามาหาโดยไวว่อง โดยหลวงพ่อต้องลงสูตรหัวใจตํารับ “ห้ามจน มหามนต์ก้นหีบ” ปลุกเสกด้วยพระคาถา “เร่งทรัพย์นั่งนับเงิน ยืนโกยทอง”

ผูกขมวดพันด้วยเชือกเขียว โดยให้สรรพนามแทนเป็นมงคลว่า “เขียวเหนี่ยวทรัพย์” เรียกว่าตะกรุดนี้มีแต่ รับ รับ รับ ไม่ว่าจะทรัพย์เงินทองมากมาย

หากใครมีบุญไว้ใช้ให้อธิษฐานอาราธนาบูชาไว้ติดตัว จักไม่ต้องกลัวจน จักไม่ต้องกลัวอด จากที่ชีวิตยํ่าแย่ ตะกรุดนี้ก็จะแก้ไข คอยช่วยให้พ้นเหตุแห่งความทุกข์ยากนั้นๆ




เครื่องรางที่โดดเด่นทางภาคกลาง


แร่กายสิทธิ์

ตามพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ จํากัดความว่า “เหล็กไหล” เป็นโลหะชนิดหนึ่งที่เชื่อกันว่า เอาไฟเทียนลนก็ไหลย้อยออกมาได้ผู้รู้หลายท่าน

กล่าวทํานองเดียวกันว่าเรื่องราวของเหล็กไหล เป็นเรื่องของความลี้ลับโดยธรรมชาติเกี่ยวข้องกับปาฏิหารย์เกี่ยวข้องกับเทพ เทวา พรหม อันอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ

ผู้ที่บําเพ็ญศีลภาวนาจนมีจิตละเอียด จึงจะสัมผัสความพิสดารเหล่านี้ได้และมีนักวิชาการท่านหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับเหล็กไหลได้อย่างลึกลํ้าและน่าสนใจว่า “เหล็กไหล” มีอานุภาพเหนืออาคมทั้งปวง

ไม่มีอาคมของผู้ใดจะบีบบังคับให้เหล็กไหลยอมจํานนได้มีแต่คําเชิญที่ไพเราะ ที่ถูกต้องตามครรลองเท่านั้นจึงจะได้เหล็กไหลมาครอบครองซึ่งหลวงปู่หวล

แห่งวัดพุทไธสวรรย์ จ.อยุธยา มีชื่อเสียงมาก ในเรื่องการเรียกเหล็กไหล ท่านพาลูกศิษย์ไปดูพิธีกรรมเรียกเหล็กไหล


ตามถํ้าต่างๆ นับครั้งไม่ถ้วน มีการบันทึก VDO / รูปถ่าย ตอนที่ท่านทําพิธีเรียกเหล็กไหล ไว้เป็นหลักฐานด้วยลูกศิษย์ทั้งหลายเห็นกับตาว่า เหล็กไหลเคลื่อนตัวจากผนังถํ้า

ลงมากินนํ้าผึ้งในบาตร ฯลฯ อีกทั้งพิธีกรรมที่ทําให้เหล็กไหลที่อยู่ในสภาพของเหลว...กลายเป็นพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ ก็ยิ่งน่าอัศจรรย์


กระพรวนพรหม

ถึงใจพระ ชนะใจคน (เสียงก้องกังวาล) โบราณเปรียบผู้ที่มีกระพรวนว่าเป็นคนโชคดีคนช่วยไม่ขาด คนรักไม่หนีคนหลงเรามีทุกเวลา ลมหายใจเป็นเงินเป็นทอง ดวงชะตาดีราศีจับ

เงินทองก็ไหลกองนองมาเต็มพื้นเต็มลานบ้าน ที่สําคัญ กระพรวนพรหมนี้ลงหัวใจพระสีวลีและนะอรหันต์นั้นแสดงว่าเป็นของสูงอีกด้วย กระพรวนดังก้องทีไรแสดงว่า

มีคนอยู่ใกล้มีคู่ใจร่วมจิต คู่ชีวิตร่วมทาง ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าผู้ที่มีกระพรวนจะเหงาขาดคู่ชู้ชื่น มีมาให้ชมได้ยลต่อเนื่องเป็นสายไม่ขาด อีกทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย


พุทธคุณด้านเอาตัวรอดเป็นยอดคนกระพรวนพรหมก็เด่นเมื่อไรกระพรวนดัง ทั้งมนุษย์เทวดาอยู่ใกล้ต้องมาช่วยเหลือดูแล ไม่ให้ล่มจมตกตํ่า ซึ่งหลวงปู่นิ่ม พระโบราณ

ท่านลงกระพรวนไว้หลายลูก แต่ลูกที่อยู่กับท่านเป็นกระพรวนเหล็กเสียงดังกังวาลใสแจ๋ว ลงไว้ตั้งแต่หนุ่มๆกระพรวนนี้ผูกไว้ที่พวงกุญแจ

สมัยสร้างวัดแรกๆ มีเงินหลักร้อยเท่านั้นบัดนี้มีศรัทธามหาชนหนุนวัดถึงหลักล้าน




เครื่องรางที่โดดเด่นทางภาคใต้



หัวนะโม

หัวนะโม สมัยอดีตถือว่าหากบ้านใดมีเงินนอโมหรือหัวนะโมเเสดงว่าบ้านนั้นมั้งมีเงินทอง มีกินมีใช้ไม่ขาด การที่มีหัวนะโมไว้ติดตัวติดบ้านนั้น จะเป็นการสร้างสิริมงคล ให้เเก่ผู้ร่วมอาศัย

โดยเฉพาะรุ่นนี้รุ่นรวยพันล้าน เป็นคําอวยพรจากคณาจารย์สายเขาอ้อ ให้มั่งมีเงินทองมากมายเพิ่มพูน คิดอะไรให้สมหวังและปรารถนาทุกประการ

โดยมีพิธีปลุกเสก ณ ถํ้าฉัตรทันต์บรรพวัดเขาอ้อ ไสยเวทย์อันดับหนึ่งแห่งภาคใต้วันที่ 20 ก.ค.62 เวลา 14:09 น. โดยเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ 9 รูป


ตาไข่เด็กวัดเจดีย์

“ขอได้ไหว้รับ” คือคําที่หลายคนอาจเคยได้ยินมา จากทั้งข่าวทางทีวี สื่อออนไลน์หรือคนรอบตัวที่มีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังทางภาคใต้นี่

ที่เรียกได้ว่า เป็นความขลังที่หลายคนยกให้เป็นแลนมาร์คในการเดินทางไปสักการะบูชาถึงที่วัด นั่นก็คือ “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์”

ประวัติของ “ไอ้ไข่” เล่าสืบต่อกันมาว่า ที่ตั้งวัดเจดีย์เมื่อก่อนนั้นหลวงปู่ทวดวัดช้างให้เกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้เมื่อครั้งเดินทางกลับมาจากกรุงศรีอยุธยาแวะมาปักกลด

เดินธุดงค์อยู่บริเวณนี้เพื่อพักแรมส่วนไอ้ไข่อายุก็ราวๆ 10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่มาปรากฏว่า สถานที่แห่งนี้พบว่ามีทรัพย์สมบัติมากอยู่

พร้อมกันนั้นศาสนสถานก็เป็นสถานที่ซึ่งสําคัญมาก จึงให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติและที่แห่งนี้เอาไว้


จากความเชื่อที่สั่งสมจากวันนั้นถึงวันนี้วัดเจดีย์เจริญรุดหน้าไปมากอุโบสถขนาดใหญ่ที่กําลังก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ปัจจัยต่างๆ จากศรัทธาที่ผู้คนมีต่อไอ้ไข่

หลั่งไหลมายังวัดเจดีย์แห่งนี้ทั้งยังเผื่อแผ่ไปยังชาวบ้านที่อยู่รอบวัด ได้มีรายได้จากการจําหน่ายเครื่องบูชาไอ้ไข่ วิญญาณเด็กน้อยดวงนี้เป็นที่พึ่งทางใจของทุกคนที่เลื่อมใส

และได้รวมความศรัทธา สร้างวัดเจดีย์แห่งนี้ขึ้นมาใหม่ เป็นวัดเจดีย์ที่สวยงาม มั่นคงและดํารงพระพุทธศาสนาสืบไป


ในขณะที่ทางร้านไลลาเองก็มีลูกค้าหลายท่านบูชาตาไข่ไป และพบกับความสําเร็จตามที่ตัวเองขอไว้อย่างไม่น่าเชื่อ บ้างก็ถูกหวยถูกรางวัล

บ้างก็ขายที่ดินได้ทั้งที่แต่ก่อนพยายามมาตลอดแต่ไม่สําเร็จ เพิ่งจะขายได้ เพราะอธิษฐานจิตและบนบานตาไข่ไว้ ทั้งนี้ตาไข่ขึ้นชื่อเรื่องของการรักษาสัจจะ

เคยกล่าวสิ่งใดไว้ก็ควรจดจําและทําตามที่กล่าว เช่นใครบนบานด้วยสิ่งใด ก็ควรทําตามที่ได้กล่าว ให้สมกับคําว่า “ขอได้ไหว้รับ” และทุกคนก็จะได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการตามที่ขอไว้




และสําหรับใครที่อยากได้โอกาสดีดีในการไปวัดเจดีย์แบบฟรีๆพร้อมทั้งได้สัมผัสบรรยากาศความสวยงามของภาคใต้แบบเต็มอิ่มจุใจ

วันนี้ลูกค้าไลลาที่บูชาเครื่องรางครบ 3990 ที่หน้าร้านทุกสาขา ก็สามารถลุ้นได้กับกิจกรรม “เติมพลังใจล่องใต้กับไลลา”

ที่ทางไลลาร่วมกับ ททท (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้) ได้จัดขึ้น

เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าทุกคน รวมรางวัลมูลค่ากว่า 200000 บาท !!


ร่วมสนุกกันได้เลยตั้งแต้วันนี้ – 15 กันยายน 2563


*ดูกติกาการร่วมสนุกเพิ่มเติมได้ที่ www.leilaamulets.com

*สิทธิพิเศษเฉพาะการซื้อสินค้าหน้าร้านทุกสาขาเท่านั้น

* เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทฯกําหนด บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า




Product added to wishlist